ทุกคนมีศักยภาพที่ไม่เหมือนใคร แต่จะมีสักกี่ค้นที่รู้จักธาตุแท้ของศักยภาพเหล่านี้และสร้างกระบวนการปลดปล่อยศักยภาพที่เป็นเมล็ดพันธุ์ของความเป็นผู้นำในตัวคุณให้เจิดจรัสออก
หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่นักบริหารหลายคนมาปรึกษาผู้เขียนว่าลูกของเขามีความเก่งหลายอย่างไม่ว่าเป็นด้านกีฬา ดนตรี วาดรูป ฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ ลูกของเขาจะเรียนอะไรดีเพราะเก่งไปซะทุกอย่างเลือกไม่ถูก ผู้เขียนก็เลยถามกลับไปว่าในความเก่งหลายๆ อย่างนี้สามารถแยกออกมาได้ไหมว่าอะไรที่จำเป็นต้องเก่งเพราะสิ่งเร้าภายนอกกับอะไรที่มีแรงขับจากหัวใจในการเลือกที่จะทำและความเก่งที่สะสมอยู่มันถูกปลดปล่อยออกมาเองอย่างเป็นธรรมชาติ
คำถามที่ดูเหมือนยากในการเลือกคำตอบจากคนที่มีความเก่งหลายอย่าง แต่จะไม่ยากเลยกับคนที่มีความเก่งและถนัดแค่ด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียวเพราะถ้าเขามีสมาธิในการมุ่งเน้นเลือกในสิ่งที่เขาถนัด ฝึกฝนมันและเพิ่มทักษะไปเรื่อยๆ ก็จะสร้างเป็นความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของผู้นำขึ้นมา
ถ้าเราเคยดูหนังชื่อ Forrest Gump ฟอเรสต์ กัมป์ จะเห็นได้ว่าพระเอก ทอม แฮงค์ มีความสามารถทางความคิดไม่สูงมาก แต่ทุกครั้งที่เขาฝึกฝนก็คือหมั่นทำสิ่งที่เขาเลือกจากหัวใจอย่างต่อเนื่องยาวนานจนกลายเป็นความเก่งอย่างสุดยอดในแต่ละเรื่องที่เขาเลือกทำ เช่นเลือกเล่นปิงปอง หน้าที่ก็คือมองลูกเวลาตีอยู่ตลอดเวลา ด้วยความมีสมาธิและฝึกฝนก็กลายเป็นแชมป์ขึ้นมา
ผู้เขียนมีโอกาสจัดหลักสูตรในการค้นหาธาตุแท้ของผู้นำ (Discover Authentic Leadership Character) ให้กับผู้บริหารระดับสูงหลายท่านในองค์กรชั้นนำที่ต้องก้าวไปสู่ผู้นำองค์กรในอนาคต เขาเหล่านั้นจำเป็นที่จะต้องเจียระไนธาตุแท้ให้กลายเป็นอัจฉริยภาพของผู้นำขึ้นมาโดยมีหลักการ 4 อย่างในการค้นหาและปลดปล่อยธาตุแท้ของผู้นำที่มีอยู่ภายในก็คือ F-R-E-E
1. F- Focus ตั้งสมมติฐาน ลองเลือกสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นธาตุแท้ การเลือกตั้งสมมติฐานเป็นสิ่งที่อัจฉริยะบุคคลอย่าง โทมัส เอดิสัน ใช้ในการค้นหาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ขึ้นมา แม้ในกระบวนการทดลองมันอาจจะล้มเหลวแต่เขาก็จะรู้อะไรที่มันจะเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แล้วก็ตัดทิ้งไป ถ้าเราหยุดมองตัวเองแล้วลองเลือกสิ่งที่เราคิดว่าเป็นธาตุแท้ของตัวเรามากที่สุดแล้วลองผ่านกระบวนการค้นหาดูเราก็จะเรียนรู้ว่าอะไรคือธาตุแท้ที่แท้จริงของเรา
หลายองค์กรชั้นนำไม่มีเวลาในการตั้งสมมติฐานนานนักจึงมักจะใช้แบบสอบถามความถนัดเชิงอัจฉริยภาพ(Multi-Dimension Intelligence Profile Assessment) เป็นเครื่องมือช่วยในการสำรวจอย่างเป็นระบบทั้งยังสามารถสำรวจลงไปในจิตใต้สำนึกว่าแรงขับของหัวใจอยู่ในมิติไหนและทักษะที่เราเลือกมันสอดคล้องกับแรงขับที่เกิดขึ้นภายในหรือไม่ ถ้าใช่ก็จะเป็นเหมือนเราสามารถจะดึงพลังของศักยภาพที่แฝงอยู่ในจิตใต้สำนึกออกมาสนับสนุนการปลดปล่อยอย่างมีดุลยภาพ
2. R-Reflect on positive Emotion สำรวจอารมณ์ ว่าเป็นบวกหรือเป็นลบมากน้อยขนาดไหน หลังจากเราเลือกสิ่งที่เป็นธาตุแท้ที่เราตั้งสมมติฐานขึ้นมา เราจำเป็นต้องสำรวจใจตัวเองให้แน่ชัดว่าหัวใจเรารู้สึกอย่างไรเมื่อได้ทำสิ่งเหล่านี้ ยิ่งทำยิ่งเหนื่อย หรือยิ่งทำยิ่งสุขใจ เพราะถ้ายิ่งทำยิ่งสุขใจ ยิ่งทำยิ่งลืมวันลืมคืนและมีความปรารถนาที่จะใช้ธาตุแท้ของเรามากขึ้นก็แสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว แต่ถ้าทำแล้วมลพิษทางอารมณ์ยิ่งมากขึ้นเราอาจจะไปหาตัวเลือกใหม่และลองสำรวจอารมณ์ใหม่ พึงระลึกเสมอว่าเราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนเรา
3. E- Expand with Best practices สะสมผลงานที่เป็นผลลัพธ์ของสมมติฐาน ที่เราเลือกว่าเป็นธาตุแท้ให้เกิดเป็น Best Practices ผลงานที่ได้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเรามีความสามารถแค่ไหน ยิ่งสะสมความสำเร็จมากขึ้น และในขณะเดียวกันก็มีความสุขใจมากขึ้นก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว
4. E- Empower Leadership Greatness สร้างเป็นเอกลักษณ์ของผู้นำที่โดดเด่น ถ้าเราสามารถเอาผลลัพธ์ที่เราสะสมด้วยหัวใจที่พองโตมาวางภาพของการเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในตัวเองก็เปรียบเสมือนเราปลอดปล่อยธาตุแท้ที่อยู่ภายในให้ออกมาเติบโตกลายเป็นบารมีที่จะแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นธาตุแท้ของการเป็นผู้นำของเรามากขึ้นเรื่อยๆ
กระบวนการในการค้นหาและปลดปล่อยธาตุแท้ของการเป็นผู้นำออกมาเปรียบเสมือนกระบวนการที่เรียกว่า Win small and Win often จงก้าวแต่ละก้าวอย่างมั่นคงแต่หมั่นก้าวอยู่เสมอและธาตุแท้ของผู้นำก็จะเบ่งบานออกมา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,984
โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785
|