E-APIC : Asia Pacific Innovation Center - The Leading Organization and Leadership Development Center

   “การสะกิดต่อมสุขใจเพื่อปลดปล่อยศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในออกมา จะสร้างพลังที่มีแรงดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาสนับสนุนวิถีการเดินทาง ถ้าเรามีการฝึกฝนและมุ่งมั่นในการเดินทางแบบไม่ยึดติดด้วยแล้ว เป้าหมายที่ดูจะเป็นไปไม่ได้ก็จะเป็นไปได้อย่างไม่ยากเย็น”

   คุณบัณทิต อึ้งรังษี
   World Class Conductor และ
   ผู้แต่งหนังสือขายดี “ต้องเป็นหนึ่งให้ได้”
   “30 วิธีเอาชนะโชคชะตา” และ “World Class”

    “วาทยกรคือ ผู้ที่หลอมรวมศักยภาพความสามารถของนักดนตรีที่หลากหลายเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้ฟัง วาทยกรในวงออร์เคสตร้าจำเป็นต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการและสื่อสาร ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางในการประสานพลังระหว่างทีมงานกับลูกค้าคนสำคัญ” คุณบัณฑิตกล่าวถึงเกร็ดในความสุขในหนังสือถอดรหัสความสุขของผู้เขียน

    เขาอธิบายต่อไปว่า วาทยกรที่โดดเด่นจะต้องมีรสนิยมในการเลือกเพลงที่สอดคล้องกับธรรมชาติและสไตล์เพลงของตัวเรา การรู้จักตัวเองและรู้จักบทเพลงที่สร้างอารมณ์บวกให้กับตัวเราเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก เพราะถ้าเราไม่รักในบทเพลงจะไม่สามารถใส่จินตนาการและความรู้สึกของจิตวิญญาณในบทเพลงที่เราเล่น

    คุณบัณฑิตกล่าวกับผู้เขียนว่า ไม่ใช่แค่บทบาทของวาทยกรที่ต้องโดดเด่นเท่านั้น นักเรียนนักศึกษา คุณพ่อคุณแม่ ผู้บริหารและมืออาชีพที่ต้องการสร้างความสำเร็จให้โดดเด่นจะต้องถามตัวเองและหาให้พบว่า เสียงกระซิบจากภายในที่นำทางเราไปสู่เส้นทางเดินที่มีแรงต้านน้อยที่สุดอยู่ที่ใด มันสามารถขับต่อมสุขใจของเราให้ทำงานเต็มที่หรือไม่ เพราะถ้าใช่มันจะสร้างความสุขในการใส่คุณค่าของความสร้างสรรค์และจินตนาการลงไปในการเดินทางไปสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน

    คุณบัณฑิตเองฟังเสียงกระซิบนี้และมีความเชื่อมั่นว่า คนไทยสามารถก้าวไปผงาดในเวทีระดับโลกได้ ถ้าสามารถหาโอกาสสะกิดต่อมสุขใจปลดปล่อยศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในออกมา บนเส้นทางเดินที่มีแรงผลักดันจากภายใน จะสร้างพลังที่มีแรงดึงดูดสิ่งดีๆ มาสนับสนุนเราในการเดินทาง ยิ่งถ้าเรามีการฝึกฝนและมุ่งมั่นในการเดินทางด้วยแล้ว เป้าหมายที่ดูเป็นไปไม่ได้ก็จะเป็นไปได้อย่างง่ายดาย

    ผู้เขียนมีโอกาสทำแบบสอบถามความถนัดเชิงอัจฉริยะภาพ(MIP) ให้กับคุณบัณฑิตพบว่า คุณบัณฑิตมีต่อมสุขใจ 4 ต่อมที่ทำให้เป็นพื้นฐานของการเป็นวาทยกรระดับโลก นั่นคือ การบริหารจัดการ การวางวิสัยทัศน์ การมีจินตนาการของความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการสื่อสาร

    คุณบัณฑิตกล่าวว่า วาทยกรที่ต้องคุมวงออร์เคสตร้าจะต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการควบคุมวงเพราะบทเพลงของวงออร์เคสตร้ามีโครงสร้างค่อนข้างสลับซับซ้อน ดังนั้นความสามารถในการแยกแยะภาษาดนตรีเป็นต่อมสุขใจที่สำคัญอันดับแรกเพราะถ้าธรรมชาติของต่อมสุขใจสอดคล้องแล้วจะสามารถเป็นวาทยกรได้อย่างมั่นคง

    แต่ถ้าต้องการก้าวขึ้นเป็นวาทยกรที่โดดเด่นระดับโลกจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ตลอดจนจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เพราะต่อมสุขใจสองอย่างนี้จะทำให้เราสามารถใส่จินตนาการและจิตวิญญาณของตัวเราเข้าไปในบทเพลง คุณบัณฑิตเปรียบวาทยกรที่โดดเด่นเสมือนผู้กำกับดังๆเช่น Stephen Spielberg ที่สามารถใส่ความแตกต่างในความคิดสร้างสรรค์ลงไปในภาพยนตร์ พาผู้ชมท่องไปในจินตนาการและสัมผัสความสุขที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อน

    คุณบัณฑิตกล่าวว่า วาทยกรที่โดดเด่นต้องทำหน้าที่แบบเดียวกับผู้กำกับที่โดดเด่น ต้องนำบทเพลงที่กระตุ้นต่อมสุขใจของเราให้ทำงานมาใส่ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างจินตนาการและจิตวิญญาณกระตุ้นต่อมสุขใจของนักดนตรีในวงให้สามารถดึงเอาศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในออกมาสร้างอารมณ์ร่วมของผู้ฟังให้มีจิตนาการเหมือนกับที่วาทยกรวาดฝันไว้

    ต่อมสุขใจที่ 4 ที่จะต่อยอดต่อมสุขใจทั้ง 3 คือ ต่อมสุขใจในการสื่อสาร วาทยกรระดับโลกต้องสามารถสื่อจิตวิญญาณของความเชื่อ จินตนาการและความรู้สึก ถ่ายทอดผ่านไม้ Baton เพื่อสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกของจินตนาการให้เข้าถึงหัวใจของนักดนตรีเพื่อบรรเลงเพลงให้เกิดอารมณ์ร่วมของผู้ฟัง

    คุณบัณฑิตกล่าวต่อว่า วาทยกรต้องเข้าใจต่อมสุขใจของนักดนตรีว่าเขาชอบเล่นดนตรีในรูปแบบไหน ชอบโชว์เดี่ยวหรือชอบเล่นเป็นวงร่วมไปกับคนอื่น ถ้าเขาต้องการโชว์เดี่ยวและมีความสามารถจริงเราก็ต้องให้อิสระเขาได้ถ่ายทอดความสามารถในการ Solo เดี่ยวแต่ในขณะเดียวกันต้องเล่นเป็นวงกับทีมให้เป็นด้วย

    การพัฒนาตัวเองนอกเหนือจากมีแรงบันดาลใจที่ดีแล้วยังต้องมีพี่เลี้ยงที่ดีด้วยเพราะพี่เลี้ยงที่ดีสามารถถ่ายทอดการเรียนรู้และกลยุทธ์ในการพัฒนาการ ถ้าเราเรียนรู้เองอาจต้องลองผิดลองถูกและใช้เวลานาน แต่ถ้าเรามีแรงบันดาลใจที่แรงและมุ่งมั่นพอมันจะเป็นเสมือนแม่เหล็กดึงดูดคนดีๆให้เข้าสนับสนุนความสำเร็จของเรา

    “ถ้าเราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเราอย่างเป็นธรรมชาติ และมองอย่างไม่ยึดติดด้วยแล้วเราจะสามารถปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ภายในอย่างไร้ขีดจำกัด” คุณบัณฑิตกล่าวและทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ต้อง Practice-Practice-Practice เพราะถึงแม้จะมีเป้าหมายและมีแรงบันดาลใจที่มีพลังสักเพียงไหนก็ตาม ถ้าไม่หมั่นเดินทางไปหาเป้าหมาย ความฝันอันยิ่งใหญ่นั้นจะยังเป็นความฝันอยู่ดี

โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785

บทความได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์