E-APIC : Asia Pacific Innovation Center - The Leading Organization and Leadership Development Center

   การสร้างผู้นำสายพันธุ์ใหม่ในองค์กรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความพร้อมของปัจจัยที่เกื้อหนุนการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์สายเลือดใหม่ของผู้นำ ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดพันธุ์เหมาะสม กระบวนการในการพัฒนาที่สอดค้ลอง บรรยากาศที่เกื้อกูล โครงการที่จะพิสูจน์ความสามารถ และพี่เลี้ยงที่พร้อมจะเป็นผู้ให้
    วันนี้ผู้เขียนจะมีโอกาสไปเปิดโครงการวิถีพัฒนาศักยภาพของผู้นำสายพันธุ์ใหม่ (Leadership Voyage Program) ซึ่งทีมผู้เขียนจัดให้กับ CEO ของบริษัทคนไทยมีวิสัยทัศน์ที่จะขยายโอกาสให้เกิดการเจริญเติบไปในภูมิภาคอย่างมั่นคงและยั่งยืน ปัญหาที่ CEO เผชิญคือโอกาสมีมากกว่าที่จะมีมือดีเข้าไปช่วยบริหาร เพราะไม่ว่าจะเป็นโอกาสใหม่ๆในประเทศจีน อินเดียหรือภูมิภาคอินโดจีนก็ล้วนแต่จะมีคนเสนอให้ไปร่วมทุนด้วยทั้งสิ้น ถ้ามีมือดีที่รู้ใจ เก่ง ดีและมีคุณลักษณะที่เหมาะสมกับวัฐจักรของการเจริญเติบโตของธุรกิจในประเทศนั้นๆไปช่วยบริหาร ความฝันของ CEO ก็จะกลายเป็นความจริงขึ้นมา
    CEO ชั้นนำหลายองค์กรมีความต้องการคล้ายกับ CEO ที่ผู้เขียนไปเป็นที่ปรึกษาและจัดโครงการให้แต่มักจะมีคำถามในใจเสมอว่าแล้วจะเตรียมความพร้อมในการสร้างปัจจัยที่จะเป็นลมส่งท้ายในการเจริญเติบโตของผู้นำอย่างไร สิ่งสำคัญที่ CEO ต้องถามตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ 5 ข้อก็คือ

    1. มีเมล็ดพันธุ์ของผู้นำสายเลือดใหม่ในองค์กรมากน้อยขนาดไหน การเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดีและเก่ง มีความพร้อมและมีความสามารถในการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสมในโอกาสที่รออยู่ข้างหน้าตลอดจนจำนวนเมล็ดพันธุ์ที่ต้องการเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงอุปนิสัยพื้นฐานของผู้นำเป็นบารมีที่ต้องสั่งสม ผู้นำหลายคนที่จะก้าวสู่ความพร้อมในการเป็น ผู้นำสายพันธุ์ใหม่นั้นจำเป็นต้อง รู้จักศักยภาพที่ Seen and Unseen potential ความสามารถในการบริหารอารมณ์และการตัดสินใจภายใต้สภาวะความกดดัน ความกล้าในการเดินไปในเส้นทางที่ไม่มีใครเคยเดิน ความกระหายในการเรียนรู้และพัฒนาในศาสตร์ต่างๆ ความสามารถในการบริหารการเปลี่ยนแปลงด้วยสมองและหัวใจ ความรักในการพัฒนาทีมงาน ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ การมี Integrity ทั้งต่อตัวเองและองค์กร
    สิ่งเหล่านี้เป็นบารมีที่ต้องสั่งสมอยู่ในจิตใต้สำนึกของผู้นำสายเลือดใหม่ CEO จะต้องมีความเชื่อว่าในองค์กรมีเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณสมบัติดัวกล่าวข้างต้นที่รอเพาะบ่มในจำนวนมากกับโอกาสที่ผ่านเข้ามา

   2. มีกระบวนการในการเพาะบ่มการพัฒนาการเจริญเติบโตดีไหม  การมีเมล็ดพันธุ์ที่ดีเยียมอย่างเดียวแต่ไม่มีกระบวนการเพาะบ่มที่เหมาะสมกับอุนิสัยพื้นฐานที่ผู้นำแต่ละคนมีอาจจะไม่ทำให้การเจริญเติบโตเป็นไปอย่างมีประสิทธิ์ภาพ การ customize หรือสร้างกระบวนการเพาะบ่มที่เหมาะสมกับเมล็ดพันธุ์ที่มีก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
    เราอาจมีเมล็ดดอกบัวพันธุ์ดีแต่ถ้าเรากระบวนการเพาะบ่มขององค์กรเป็นแบบการเพราะบ่มของต้นกระบองเพชรคือเลี้ยงในทะเลทรายก็คงจะไม่เหมาะสมกันอาจทำให้เมล็ดพันธุ์ดีไม่เติบโตหรืออาจะตายไปในที่สุด กระบวนการเรียนรู้จะต้องเน้นอุปนิสัยพื้นฐานของผู้นำเป็นตัวตั้งว่าเขามีความถนัดทางอัจฉิรยภาพและความชอบในการเรียนรู้แบบไหน เราควรจะเน้นทฤษฎี การปฎิบัติ การมีส่วนร่วม การมีพี่เลี้ยงที่รู้ใจ การไปหาโอกาสเรียนรู้ Best Practices ในองค์กรอื่นๆ การใช้การเรียนรู้จาก case จริงๆ ที่สามารถประยุกต์ใช้ทฤษฎีให้เกิดเป็นรูปํธรรม การผสมผสานการเรียนรู้ให้เข้ากับทีมผู้นำสายพันธุ์ใหม่อย่างลงตัวเป็นศาสตร์ที่สำคัญ

    3. มีบรรยากาศในการสนับสนุนเกื้อกูลในการเพาะบ่มเหมาะสมไหม  การสร้างบรรยากาศที่เกื้อกูลทั้งในกระบวนการเรียนรู้เพิ่มเติมและการประยุกต์ใช้ในงานประจำเป็นองค์ประกอบที่หลายองค์กรมอบข้าม ผู้นำสายเลือดใหม่ต้องการเพาะบ่ม การสนับสนุนที่เข้มแข็งจาก CEO ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาที่ต้องจัดสรรระหว่างการเรียนรู้และงานประจำ Priority และ Allocation ของความสำคัญในงานและโครงการเรียนรู้ที่จะพิสูจน์ความสามารถ เราก็จะส่งสัญญาณว่าโครงการวิถีพัฒนาศักยภาพของผู้นำมีความสำคัญและทุกฝ่ายต้องให้การสนับสนุน
    การสร้างความรู้สึกของการเป็นลมใต้ปีกที่ช่วยพยุงการบินสู่ระดับใหม่ของการเป็นผู้นำเป็นสิ่งที่ CEO และผู้บริหารระดับสูงต้องแสดงออกมาทั้งจากสมองในการวางโครงสร้างในการสนับสนุนและการมีพรหมวิหารในการเพาะบ่มอย่างจากก้นบึ้งของหัวใจ

    4. มีโอกาสและโครงการที่จะพิสูจน์ความสามารถในการเจริญเติบโตหรือไม่  หลายครั้งการพัฒนาความสามารถใหม่เกิดขึ้นในตัวผู้นำแต่ถ้าไม่มีเวทีให้เขาแสดงออกมาอย่างเหมาะสม การสร้างความเชื่อมั่นในการสร้างความสามารถใหม่ต้องการเวทีที่พิสูจน์ฝีมือ การมีความรู้สึกถึงชัยชนะร่วมกันกับ CEO เพื่อสนับสนุนในโครงการที่พิสูจน์ความสามารถซึ่งไม่ใหญ่ ไม่เล็กแต่สำคัญในเชิงกลยุทธ์ขององค์กร มีเวลาและทรัพยกรที่สามารถจะเกื้อกูลในการนำแนวคิดใหม่ไปสร้างรูปธรรมในการปฎิบัติมีส่วนสำคัญในการเพาะบ่มการเจริญเติบโต
    ความรู้สึกของการเฉลิมฉลองความสำเร็จตอนจบโครงการด้วยหัวใจที่พองโตในรสชาติของความสำเร็จเป็นสิ่งผลักดันให้ผู้นำสายพันธุ์ใหม่มีความกล้าในการบริหารโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

     5. มี Mentor ทั้งภายในและภายนอกที่พร้อมจะเป็นผู้ให้หรือไม่ การมีกัลยานิมิตรที่ผ่านร้อนผ่านหนาวที่เข้าใจปัญหาและอุปสรรคตลอดจนมีอุปนิสัยพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน สามารถแลกเปลี่ยน Best practices และเป็นเพื่อนคู่คิดทั้งยังเป็นกระจกสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลง การให้กำลังใจในการก้าวข้ามปัญหาและความทุกข์ในการ Implement การเปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเดินทางสู่การพัฒนาผู้นำ
    หลายองค์กรให้เวลาทีมของผู้เขียน 6 เดือนถึง 1 ปีในการเป็น mentor เพื่อเดินเคียงข้ามการเจริญเติบโตของผู้นำสายพันธุ์ใหม่ในการสร้างวุฒิภาวะของผู้นำ

    ถ้า CEO สามารถตอบคำถาม 5 คำถามในใจนี้ได้อย่างมั่นใจ คุณก็พร้อมที่จะส่งสริมและเริ่มโครงการวิถีพัฒนาศักยภาพของผู้นำสายพันธุ์ใหม่ หรือที่ CEO ทั้งหลายที่ผ่านหลักสูตรนี้พร้อมใจกันตั้งชื่อเก๋ๆ ไว้ให้ทีมของผู้เขียนว่า “Leadership Voyage Program”

โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785

บทความได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์