รากแก้วความสุข Grass Root of Authentic Happiness
[Date : 4 June 2022 ]
 
Talent iceberg of Leadership
[Date : 21 June 2022 ]
 
Unlock Leadership Potential(1)
[Date : 10 May 2022 ]
 
อะไรสร้างวุฒิภาวะของผู้นำในการบริหารความผกผันของการเปลี่ยนแปลง
 

อะไรสร้างวุฒิภาวะผู้นำในการบริหารคงามผกผันของการเปลี่ยนแปลง



        เมื่อไหร่ก็ตามที่เราและทีมงานยิ่งทำยิ่งเหนี่อย ความสนุกในการทำงานเริ่มหายไปเราต้องหยุดคิดและถามคำถามตัวเองว่า “เป้าหมายที่เราจะไปข้างหน้านั้นยังเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องหรือไม่ เหมาะสมกับการเวลาตลอดจนอัจฉริยภาพขององค์กรและตัวเราหรือไม่ ถ้าไม่เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนภาพของความสำเร็จนี้ไปในทิศทางใด เพราะถ้ากระแสความผกผันมาแรงและเร็วความสำเร็จในอดีตอาจจะไม่ทำให้เราอยู่รอดในอนาคตก็เป็นได้”
        ในโลกของการเปลี่ยนแปลงที่ผกผันอย่างในปัจจุบัน มีเสียงเรียกหาผู้นำที่สามารถฝ่าฟันวิกฤตให้รอดพ้นจากสภาวะของการเปลี่ยนแปลงที่ดูเหมือนมีความรุนแรงขึ้นทุกที อะไรเป็นปัจจัยที่สำคัญในการสร้างวุฒิภาวะของผู้นำให้แข็งแกร่งเพื่อนำพาตัวเองทีมงานและสังคมให้รอดพ้นกับความผันผวนรวมทั้งสามารถเปลี่ยนแปลงความผกผันให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ จำเป็นไหมที่เราจะต้องผันตัวเองจากผู้จัดการไปเป็นผู้นำ สิ่งเหล่านี้สร้างได้หรือไม่หรือเป็นพรสวรรค์ที่ติดมากับตัวบุคคล

เราต้องการผู้นำหรือผู้จัดการที่ดีในสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่ผกผัน
        ผู้นำนั้นต่างกับบทบาทของผู้จัดการเนื่องจากว่าผู้จัดการที่ดีมักจะมีโจทย์ที่ได้สร้างมาแล้วว่าต้องทำอะไร หน้าที่ของผู้จัดการก็คือทำงานที่ได้รับมอบหมายมาให้เกิดประสิทธิ์ภาพสูงสุด(Efficiency) ในขณะที่ผู้นำนั้นต้องสร้างโจทย์หรือในศัพท์สมัยใหม่มักจะใช้คำว่า “วิสัยทัศน์” เพื่อสร้างเป้าหมายว่าจะไปไหนกันดีเพราะในสภาวะของสถานะการณ์ที่ผันผวนนั้นโจทย์เก่าที่เคยทำมาในอดีตอาจจะไม่ประสบความสำเร็จอีกต่อไปตลอดจนเมื่อได้โจทย์ที่คมชัดแล้วก็ต้องหาทางก้าวเดินไปให้ถึงเส้นชัยด้วยนั่นคือการมีประสิทธิผล(Effectiveness) เมื่อไหร่ก็ตามที่เราและทีมงานเริ่มทำงานมากขึ้นใช้เวลามากขึ้น ยุ่งมากขึ้นหรือยิ่งทำยิ่งเหนี่อยและความสนุกในการทำงานเริ่มหายไปนั่นคงจะเป็นกระแสที่เราต้องมานั่งหยุดคิดและถามคำถามตัวเองว่า “เป้าหมายที่เราจะไปข้างหน้านั้นยังเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องไหมมันเหมาะสมกับการเวลาและความสามารถตลอดจนอัจฉริยภาพขององค์กรและตัวเราหรือไม่ถ้าไม่เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนภาพของความสำเร็จนี้ไปในทิศทางใด เพราะถ้ากระแสความผกผันมากแรงและเร็วสภาวะของความสำเร็จในอดีตอาจจะไม่ทำให้เราอยู่รอดในอนาคตก็เป็นได้  ผู้นำจำเป็นที่ต้องปรับทิศทางเพื่อสร้างพลังและความสนุกของทีมงานให้ไปในทิศทางที่มีความหมายที่สามารถปลดปล่อยพลังแห่งอัจฉริยภาพของทีมงานได้อย่างเต็มที่”
        เป้าหมายที่ผู้นำสร้างขึ้นมาจำเป็นที่จะประสานกับสภาวะของการเปลี่ยนแปลงและความต้องการที่อยู่ภายนอกเพราะถ้าความสมดุลย์ตรงนี้ไม่เกิด สิ่งที่เป็นกล้ามเนื้อของเราอาจจะไม่เป็นที่ต้องการของกระแสสังคมก็ว่าได้ มีหลายองค์กรที่เคยประสบความสำเร็จมาในอดีตและสร้างผู้จัดการที่ดีเดินไปตามเส้นทางที่เคยเดินโดยมิได้เหลือบมองความไม่สมดุลย์ขององค์กรที่อยู่ บางครั้งผู้นำอาจจะต้องสร้างสภาวะของการกระชากภวังค์ให้หลุดจากวงจรของการยึดติดความสำเร็จในอดีต ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจในองค์กรระดับ International ก็คือ Intel แอนดรูว์ โกรฟ  Chairman และ CEO ผู้ที่ได้รับยกย่องจาก Time magazine ว่าเป็น Man of the year ได้กล่าวไว้ว่า “เมื่อไรที่เราประมาทและลืมมองความผกผันรอบตัวเรา เราอาจจะถูกกระแสของการเปลี่ยนแปลงพัดเราไปยืนที่จุดที่เราไม่ถนัดและเราอาจจะสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันที่เรามีไปก็ได้ จุดผกผันที่   แอนดรูว์ เรียกว่า Strategic Inflection point เป็นจุดตรวจสอบเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราเปลี่ยนช้าเกินไปเราอาจจะเป็นผู้ที่ถูกเปลี่ยนก็ได้” แอนดรูว์เองเคยนำพา Intel ให้เลี้ยวข้ามจุดผกผันจากการเน้นการผลิต memory chip หรือหน่วยความจำในคอมพิวเตอร์ที่เขาเคยเป็นเจ้าโดยที่ญี่ป่นก้าวเข้ามาเคียงข้างอย่างรวดเร็วถ้าผกผันไม่ทันเขาเองบอกว่า Intel อาจจะกลายเป็นอดีตไปก็ได้ ซึ่งเส้นทางใหม่เขานำทางให้ Intel มาเป็นเจ้าใน Microprocessor หรือที่เราได้ยินโมษณากันบ่อยๆว่า Intel inside ของ Pentium chip
       
ความสามารถในการวิเคราะห์กระแสของความผกผัน
        ผู้นำที่ดีต้องเข้าใจสภาวะของการเปลี่ยนแปลง รู้จักองค์ประกอบและปัจจัยที่สร้างความผกผันเพื่อวิเคราะห์หาจุดเหมาะสมในการเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนที่กระแสของการเปลี่ยนแปลงมาถึง หรือในทางกลับกันถ้าผู้นำที่แท้จริงมักจะเข้าใจจุดผกผันและสร้างให้การผกผันมันเกิดขึ้นกับคนอื่นมากกว่าที่จะรอให้ความผกผันนั้นมันมาถึงและที่สำคัญแหล่งข่าวสารข้อมูลที่อยู่รอบข้างจำเป็นที่จะต้องทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์และเป็นข้อมูลที่ไม่บิดเบือนและเป็นความจริง
        ถ้าเราสังเกตการเลือกตั้งในอเมริกาสมัยบิล คลินตันเลือกตั้งเพื่อเป็นประธานาธิบดีเขาตั้งหน่วยข่าวกรองสามารถรายงานความคืบหน้าของคู่ได้นาทีต่อนาทีเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางการวางกลยุทธ์และแนวการรบได้อย่างเที่ยงตรงและทันเวลาหรืออย่างแอนดรูว์ โกรฟเขาตั้งข้อสังเกตว่าผู้นำที่ดีจำเป็นต้องแยกให้ออกว่าอันไหนเป็นสัญญาณรบกวนหรืออันไหนเป็นสัญญาณอันตรายเพราะถ้าเป็นสัญญาณอันตรายจำเป็นต้องรับฟังและปรับตัวให้เหมาะสม เขาเองได้สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากลูกน้องระดับล่างที่อยู่ที่ญี่ป่นที่ส่งจดหมายอิเลคโทรนิคส์มาส่งสัญญานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนการสร้างอุตสาหกรรม memory chip อย่างเอาจริงเอาจังเมื่อเขาเห็นสัญญานจำเป็นที่ต้องปรับความพร้อมเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันหนีผู้ตามชาวญี่ปุ่นที่วิ่งด้วยความเร็วสูงไปสู่แนวทางใหม่ที่เขายังเป็นต่อก็คือสมองของคอมพิวเตอร์นั่นเอง

ประเมินความแรงของกระแสแห่งการผกผัน
        ถ้าเราเข้าใจกลไกของความผันผวนก็จะทำให้เราประเมินสถานการณ์จริงได้ว่าคลื่นที่มากระทบเรานั้นมันลูกใหญ่ขนาดไหนและเราต้องสร้างความการก้าวกระโดดหรือแนวนวัตกรรมใหม่มากน้อยแค่ใดรวมทั้งความเร็วในการเปลี่ยนแปลงด้วย เพราะบางคนนั้นมักจะไม่คำนึงถึงความเร็วและความแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยเราที่มีแนวความคิดในการทำแบบเรื่องๆมาเรียงๆไม่เคยเจอภัยพิบัติบางครั้งก็มิได้เตรียมตัวในการรองรับสิ่งที่ผันผวนตรงนี้ สมัยก่อนเราเคยมีความเชื่อว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าวซึ่งต่างจากประเทศที่มีหิมะหรือความอดอยากที่ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
        ผู้เขียนเองเป็นที่ปรึกษาการปรับวัฒนธรรมใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อที่จะยกระดับให้กลายเป็นมืออาชีพสู่มาตราฐาน International ให้ทันยุคของการเปิดตลาดเสรีทางการเงินของไทยโดย คุณอมเรศ ศิลาอ่อนประธานกรรมการบริหารของตลาดหลักทรัพย์ได้กล่าวเปรียบเทียบอย่างน่าสนใจว่าปัจจุบันนี้เมืองไทยเราเปรียบเสมือนได้มีกระแสน้ำที่ไหลมาท่วมจำเป็นที่จะต้องสร้างความเป็นผู้นำอย่างมืออาชีพที่สามารถหนีน้ำและนำพาองค์กรไปอยู่ในที่สูงและที่สำคัญต้องยกระดับความพร้อมแห่งการเรียนรู้ตลอดจนต้องทำงานประสานกันอย่างเป็นทีมแบบศึกบางระจันมิฉะนั้นแล้วเราอาจจะอยู่รอดได้ลำบากในยุคของโลกแห่งโลกาภิวัฒน์

กล้าในการเดินไปในทางสายใหม่
         ผู้นำที่สามารถบริหารความผกผันของการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องสามารถกล้าเดินไปในทางสายใหม่พร้อมด้วยแนวนวัตกรรมในการเดินอย่างชาญฉลาดที่ประสานทั้งทิศทางที่ถูกต้องและความมีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิ์ผลของการเดินไปอย่างมืออาชีพ ถ้าเราต้องการที่จะสร้างแนวนวัตกรรมใหม่ในการผกผันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ว่าตัวเราและองค์กรที่เราอยู่นั้นมีความถนัด ความสามารถตลอดจนพลังแห่งอัจฉริยภาพในแกนไหนที่โดดเด่นอย่างแท้จริง
         บางครั้งเมื่อเรารวยขึ้นสังเกตดูว่าตัวเราเองนั้นเราจะเพิ่มไขมันในตัวเองและไม่ได้ฟิตบริหารกล้ามเนื้อที่เคยแข็งแรง ถ้าเปรียบธุรกิจในช่วงฟองสบู่ก็คือการขยายธุรกิจแทนที่จะต่อยอดไปในแกนที่เราเก่งกลับสร้างความหลายหลายในการลงทุนและบางครั้งกลับไปลงทุนในแกนที่เราไม่มีความนชำนาญอย่างแท้จริงทำให้เกิดเป็นไขมันขององค์กรไป ความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกที่เปิดอย่างแท้จริงเป็นสิ่งที่เราคงจะต้องตระหนักให้ดีว่าเรานั้นเก่งอะไรจริงๆ ที่จะสามารถเป็นมืออาชีพระดับ “World Class” เพราะในกระแสของโลกาภิวัฒน์ ต้องเก่งจริงถึงจะอยู่รอด และที่สำคัญเส้นทางสายใหม่จะต้องสร้างความท้าทายให้ขับพลังแห่งอัจฉริยภาพให้ตื่นขึ้นและไม่หวั่นไหวเมื่อมีกระแสน้ำและลมแรงที่ไหววนรอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา
        กลุ่ม Leo Group of companies ผู้มีคุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์เป็นผู้นำได้กล้าสร้างทางสายใหม่ที่ยกระดับองค์กรจากผู้นำทาง Freight Forwarder ให้กลายมาเป็นบริษัทไทยองค์กรแรกที่กล้าตั้งวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการ Total Logistic services การที่คุณเกตติวิทย์กล้าที่จะสร้างแนวความคิดในการสร้างผู้นำและมืออาชีพในองค์กรเพื่อเป็นที่ปรึษาและสามารถเป็นเพื่อนคู่คิดของลูกค้าในการรับเหมาหรือที่หลายคนใช้คำว่า Outsourcing services ในการบริการจัดส่งครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เหตุผลที่สำคัญในการสร้างวิสัยทัศน์นี้เนื่องจากการผกผันทางธุรกิจที่บริษัททั้งหลายย้ำแย่จากฟองสบู่ที่แตกกระจายทำให้หลายบริษัทต้องการที่พึ่งในการบริหารสินค้าคงคลังและบริการในการจัดส่งสินค้าซึ่งปัจจุบันนับเป็นต้นทุนใหญ่ในการทำธุรกิจ
การเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสเป็นสิ่งที่คุณเกตติวิทย์เล็งเห็นถึงปัญหาของเพื่อนนักธุรกิจด้วยกันโดยที่ทีมงานของคุณเกตติวิทย์สามารถสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นได้ แม้จำเป็นต้องพัฒนาทีมงานให้สามารถมีอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ มากขึ้นแต่ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับโอกาสที่ผ่านเข้ามา   ผู้เขียนเองเห็นความกล้าและการความมั่นคงในการกระทำของคุณเกตติวิทย์ตั้งแต่การวางโครงสร้าง สถาปัตย์กรรมองค์กรใหม่ การพัฒนาวุฒิภาวะผู้นำของทีมงานในทุกระดับ การสร้างทีมงานที่เน้นการบริหารโครงการที่เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความฝันให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ การวางแนวความคิดในการสร้างแนวนวัตกกรรมนี้ได้วางแนวทางก่อนที่ความผกผันจะเกิดขึ้นในประเทศไทย และเมื่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจช่วงผกผันมาถึง ความกล้าในการเดินทางสายใหม่ก็ได้ผลประโยชน์แก่ผู้นำที่กล้าเปลี่ยนแปลงอย่างคุ้มค่า

      
 ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามคุณเมื่อคุณเห็นสัญญานอันตรายที่เกิดขึ้นคุณสามารถจะปลุกพลังแห่งอัจฉริยภาพในตัวเองขึ้นมาได้ทั้งสิ้น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างทางสายใหม่ที่ท้าทายที่ทำให้เกิดความแข็งแกร่งและวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำเพื่อที่เราสามารถจะยืนอยู่บนยอดคลื่นลูกใหญ่ที่ถาโถมมาหาเราอย่างไม่หยุดยั้ง



 
โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร  E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785 
บทความได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์


Home    l    About Us    l    Education Program    l    Consulting    l    Clients    l    Online Test
Books & Multi    l    Apic Leadership Review    l    Contact Us