รากแก้วความสุข Grass Root of Authentic Happiness
[Date : 4 June 2022 ]
 
Talent iceberg of Leadership
[Date : 21 June 2022 ]
 
Unlock Leadership Potential(1)
[Date : 10 May 2022 ]
 
การสร้างพิมพ์เขียวเพื่อพัฒนาอัจฉริยภาพของคุณ
 

การสร้างพิมพ์เขียวเพ่ือพัฒนาอัจฉริยภาพของคุณ


        ชีวิตของคนเรานั้นมีความสำคัญมากกว่าทรัพย์สินเงินทองที่อยู่รอบตัวเราหลายเท่านักแต่เรามักจะให้ความสำคัญและเวลาต่อสิ่งรอบตัวมากว่าการพัฒนาสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเราเอง เมื่อเราสร้างบ้านที่เรารักสักหลังเรามักจะหาสถาปนิกที่เก่งและรู้ใจเรามาเป็นผู้ออกแบบพิมพ์เขียวของบ้านเรา เพื่อให้ได้มาถึงความต้องการที่สามารถสะท้อนสิ่งที่อยู่ทั้งในความคิดและจิตใจของเราให้มากที่สุดและการสร้างพิมพ์เขียวบางครั้งต้องใช้เวลาระหว่างสถาปนิกกับตัวเราในฐานะเจ้าของบ้านเพื่อให้เกิดความเข้าใจและตรงกับสิ่งที่เราคาดหวังให้มากที่สุด บางครั้งอาจจะใช้เวลาเป็นแรมเดือนขึ้นอยู่กับความปราณีตที่เราต้องการสรรค์สร้างขึ้นมา แล้วพิมพ์เขียวสำหรับชีวิตคุณที่สำคัญมากกว่าหลายเท่าคุณมีเวลาให้กับการพิถีพิถันในการออกแบบโครงสร้างและสถาปัตย์กรรมอันมีค่าที่สุดแล้วหรือยัง

พิมพ์เขียว : สถาปัตย์กรรมในการสร้างเป้าหมายแห่งความสำเร็จของชีวิต
     การสร้างพิมพ์เขียวของชีวิตเปรียบเสมือนการบรรจงสร้างสถาปัตยกรรมโครงสร้างของรายละเอียดเพื่อสร้างสรรค์ภาพความสำเร็จว่าคุณในอนาคตว่าเป้าหมายที่คุณต้องการในชีวิตนั้นเป็นอย่างไร มีความหมายกับคุณมากน้อยขนาดไหน ตลอดจนความสุขที่คุณจะได้รับระหว่างทางที่คุณเดินไปหาเป้าหมายนั้น นอกเหนือจากเป้าหมายที่เด่นชัดและมีความหมายแล้วความพร้อมหรือพื้นฐานของอัจฉริยภาพของตัวเราก็เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญเพราะถ้าเราสร้างภาพความสำเร็จอยู่บนพื้นฐานที่เราไม่มีความเก่งอยู่เลยก็เปรียบเสมือนการต่อยอดบนรากฐานที่ไม่แน่นหนามั่นคง
        ถ้าเราลองศึกษาประวัติศาสตร์ของกรุงรัตนโกสินทร์ดูเราคงจะพอสังเกตได้ว่าการวางสถาปัตย์กรรมหรือพิมพ์เขียวของกรุงเทพนั้นอยู่บนรากฐานของแม่น้ำคูคลอดงที่ล้อมรอบเรา สมัยก่อนเราจะใช้ธรรมชาติเที่มีพื้นฐานที่เกื้อหนุนการดำรงชีวิตอยู่ของเราเป็นแต้มต่อในการกำหนดแผนผังเมือง มีผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวไว้อย่างน่าฟังว่าเมื่อก่อนตอนที่เรากำหนดว่าจะสร้างสนามบินแห่งแรกเราก็จะเลือกภูมิประเทศที่อยู่สูงที่สุดที่เป็นที่ดอนที่น้ำท่วมไม่ถึงนั่นก็คือทางทิศเหนือของกรุงเทพและไม่ต้องถมเพราะสูงอยู่แล้ว ในขณะที่ปัจจุบันนี้เรากำลังไปเลือกที่ลุ่มนั่นก็คือหนองงูเห่าซึ่งต้องใช้การถมที่กันมากมายกว่าจะได้ระดับที่เราต้องการรวมทั้งที่ๆ จะเกิดความเจริญที่อยู่ล้อมรอบด้วย ถ้าเราเลือกเป้าหมายบนพื้นฐานที่เราไม่มีแต้มต่อการพัฒนาตรงนั้นคงจะต้องถมพื้นฐานให้แน่นเสียก่อนซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้เราไม่สามารถสร้างความโดดเด่นของอัจฉริยภาพที่เรามีอยู่ ฉะนั้นความสนุกในการเดินทางเพื่อไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จจำเป็นที่จะต้องไตร่ตรองให้ดีถึงพรสวรรค์เพื่อพัฒนาให้กลายเป็นพลังแห่งอัจฉริยภาพซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะสร้างพลังไปสู่ความสำเร็จที่เราตั้งความหวังไว้

ความคมชัดของเป้าหมายในชีวิต
        ความคมชัดของเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเจียระไนอัจฉริยภาพเพราะมันเป็นเสมือนจุดรวมพลังในการปลดปล่อยความสามารถคุณออกมา เคยมีคนเปรียบเทียบความสามารถและพลังที่อยู่ภายในคนเราเสมือนพลังของจรวดอพอลโลที่ส่งไปดวงจันทร์ แต่ละกระสวยเชื้อเพลิงสามารถยกรถได้ถึง 7,500 คันและมีถึง 5 กระสวยซึ่งถ้ารวมกันแล้วสามารถมีพลังและอำนาจในการยกรถได้กว่า 37,000 คัน แต่คนเรานั้นมีพลังมากกว่านั้นแต่ส่วนใหญ่มักจะไม่สามารถดึงเอาพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในออกมา สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ไม่สามารถดึงศักยภาพภายในออกมาได้ก็คือไม่มีเป้าหมายเปรียบเสมือนมีพลังแต่มิได้เอากุญแจสวิทซ์มา หรือเป้าหมายที่มีไม่ชัดก็เสมือนเราดูแผนที่ที่มิได้บอกรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ ไว้เมื่อเราขับไปถึงหรือขับผ่านไปบางครั้งเราอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราได้ไปถึงแล้ว  เป้าหมายมีความสัมพันธ์กับอุปสรรคและความท้าทายที่ผ่านมาเพราะชีวิตเราทุกคนคงจะต้องเจออุปสรรคที่โถมทับเข้ามาแต่เราจำเป็นที่จะต้องมีทิศทางที่เราจะมุ่งไปเพราะมิฉะนั้นแล้วเราอาจจะโดนมรสุมชีวิตพัดกระหน่ำและเมื่อเราไม่มีเป้าหมายชัดเจนเราก็จะไม่สามารถจะกลับไปในทิศทางที่เราอยากไปได้เมื่อพายุสงบลง นักกีฬาเรือใบคงจะเข้าใจนี้ดีเพราะบางครั้งเมื่อลมไม่เป็นใจเราอาจจะต้องวิ่งไปแบบซิกแซกเพื่อใช้จะได้ไม่ปะทะแรงลมแต่เมื่อลมส่งท้ายสงบลงเหลือแต่ลมส่งท้ายในทิศทางที่เราต้องการเราก็สามารถเร่งได้อย่างเต็มที่เพื่อขับพลังออกมาอย่างเต็มฝีกัด
        เป้าหมายชีวิตของแต่ละคนอาจจะมีช่วงเวลาไม่เหมือนกันบางคนฝันแค่หนึ่งวัน เราคนเห็นเด็กหาเช้ากินค่ำซึ่งต้องการแค่เงินวันละ 100 บาทตกเย็นก็ไปกินเหล้าไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ทำงานก็เพื่อเงินอย่างเดียวไม่ได้คิดถึงความหมายของชีวิต จะมีความสุขก็ต่อเมื่ออยู่นอกงานเท่านั้นแต่ในงานนั้นมีแต่ความทุกข์ ถ้าเราเติบโตเป็นหัวหน้าคนเรามักจะมีแผนงานที่ยาวขึ้นซึ่งปกติก็จะเป็นแผนงาน 1 ปีเมื่อพัฒนาตัวเองเป็นผู้บริหารระดับสูงก็มักจะสามารถวางแผนได้ยาวขึ้นเป็น 3-5 ปี เราคงสังเกตเถ้าแก่บางคนที่วางเปห้าหมายไว้หลายชั่วอายุคนบ้างวางแผนพัฒนาลูกหลานเพื่อมาสืบทอดเจตนารมย์ ดังนั้นความสามารถในการวางเปห้าหมายนั้นสามารถพัฒนากันได้แต่ที่สำคัยมากไปกว่าเปห้าหมายก็คือความสุขในการไปหาเป้าหมายนั้น  มีเรื่องเล่าที่ผู้เขียนชอบมากเรื่องหนึ่งที่สะท้อนถึงการทำงานและความสุขได้เป็นอย่างดีเรื่องมีอยู่ว่า ชายคนหนึ่งเดินทางไปต่างจังหวัดไปพบกับชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังก่ออิฐอยู่ ก่อไปบ่นไปดูเหมือนว่าไม่มีความสุขในงานที่ทำเลยเมื่อเข้าไปถามว่าทำอะไรก็บอกว่าไม่เห็นหรือ ฉันทำงานเพื่อเงิน 135 บาทแต่งานมันไม่สนุกเลยเย็นๆ ไปกินเหล้ารู้สึกว่ามันสนุกดี เมื่อชายคนนั้นเดินไปอีกพักก็พบกับชายอีกกลุ่มหนึ่งดูเหมือนมีหัวหน้าที่คอยช่วยเหลือลูกน้องที่ก่ออิฐอยู่แต่ละหว่างก่อไปก็ยังบนอุบอิบเหมือนเดิมแต่มีการวางแผนและแบ่งงานกันทำซึ่งต่างกับกลุ่มแรกคือไม่มีการประสานงานกันเลย เมื่อเข้าไปถามว่าทำอะไรก็ได้คำตอบที่ว่าเรากำลังก่อผนังอยู่ ที่ฉาบปูนก่ออิฐอยู่นี้เป็นส่วนหนึ่งของผนัง เราจึงแบ่งงานกันทำเพื่อให้งานมันรีบเส็จๆ เราจะได้เงินไปกินเหล้าแต่งานก็ยังหนักและไม่น่าทำเมหือนเดิม พอชายคนเดียวกันนั้นเดินต่อไปก็พบชาวบ้านกลุ่มใหญ่ก่ออิฐไปและผิวปากไปจึงสงสัยเป็นยิ่งนักว่าทำไมงานหนักแต่ยังผิวปากและร้องเพลงอยู่ได้จึงตรงไปถามปรากฎว่าเขากลับบอกว่าสิ่งที่ก่ออิฐอยู่เป็นส่วนที่สำคัญของชีวิตนั่นก็คือการสร้างวัดที่พวกเขามีความฝันอันยิ่งใหญ่ร่วมกันว่าจะต้องสร้างวัดให้หมู่บ้านและสิ่งที่เขาทำเป็นส่วนหนึ่งของความฝันอันยิ่งใหญ่มากเพราะเขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำทำให้ความฝันอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นมาได้แม้จะเหนื่อยแต่มันก็เป็นความสุขและความสนุกที่ได้เดินทางไปหาภาพแห่งความสำเร็จที่เขาฝันไว้ เขากล่าวต่อไปอีกว่าภาพแห่งความสำเร็จก็คือสิ่งที่เราต้องการได้มา แต่ความสุขนั้นก็คือรักและมีความสุขในการเดินทางเพื่อให้มาถึงสิ่งที่ต้องการ
        ดังนั้นความสำเร็จและความสุขเป็นสิ่งที่ต้องไปคู่กันมิฉะนั้นชีวิตเราจะเติมไม่เต็มเพราะบางคนมาบ่นกับผู้เขียนว่าเมื่อได้มาถึงความสำเร็จแต่รู้สึกโดดเดี่ยวและไม่มีเพื่อนเลย ในขณะที่ผู้ประสบความสำเร็จที่แท้จริงมักจะสนุกและมีความสุขในการเดินทางและเพื่อนๆ และผู้ที่ห้อมล้อมเป็นผู้ที่ดันเขาขึ้นมาและช่วยเอหนุนนำพาไปสู่ภาพความสำเร็จด้วยกัน

เทคนิคการกำหนดพิมพ์เขียวของชีวิต
การกำหนดเป้าหมายชีวิตต้องกำหนดความคมชัดด้วยตั้งคำถามให้กับตัวเองสองคำถามด้วยกัน
    1.ขอบเขตของความต้องการของชีวิตเรา
        1.1  ระยะเวลาที่คุณต้องการตั้งเปห้าหมาย
        1.2  อะไรคือสิ่งที่คุณอยากเป็น
        1.3  อะไรคือสิ่งที่คุณอยากทำเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่คุณอยากจะเป็น
         1.4  อะไรคือสิ่งที่ต้องมีเพื่อสนับสนุนสิ่งที่คุณอยากจะทำ
    2.ระดับความเชื่อมั่นและศรัทธาในเป้าหมายของคุณ
        2.1  คุณเห็นเป้าหมายคุณท้าทายขนาดไหน
        2.2  คุณมีความเชื่อมั่นในการสร้างความสำเร็จของคุณขนาดไหน
        2.3  คุณมีคำมั่นสัญญาในการทำเป้าหมายให้เกิดเป็นความจริงมากน้อยเท่าใด
        2.4  คุณมีความกล้าในการเดินทางในทางที่คุณเลือกไว้มากเท่าใด
    เมื่อคุณอยู่ในกระบวนการกำหนดเป้าหมายทุกคำถามจาก 1.1 ถึง 2.4 จะเป็นตัวสร้างกระบวนการคิดให้เราทบทวนถึงขอบเขตและความสามารถในการสร้างเป้าหมายให้เกิดเป็นความจริง ถ้าขอบเขตคุณใหญ่เกินไปในระยะเวลาที่จำเป็นระดับความศรัทธาของเป้าหมายมั่นก็จะลดลงตามไปด้วย แต่ถ้าขอบเขตคุณเล็กเกินไปอาจจะทำให้ความท้าทายของคุณไม่เกิดขึ้นอาจจะทำให้ไม่เกิดความสนุกในการเดินทาง
    ผู้เขียนมีเพื่อนสนิทรุ่นพี่ที่เคยเรียนหนังสือด้วยกันที่มหาวิทยาลัย Standford ในสหรัฐอเมริกาได้กล่าวกับผู้เขียนไว้อย่างน่าฟังถึงความคมชัดของเป้าหมายว่ามีผลต่อความศรัทธาและความสำเร็จและพลังในการก่อให้เกิดความสนุกและกัดไม่ปล่อยในการเดินทาง เขาใช้กระบวนการตั้งแต่ 1.1 ถึง 2.4 เช่นกัน วันหนึ่งลูกชายคนเดียวของเขาซึ่งมีอายุ 22 ปีที่พึ่งจบจากมหาวิทยาลัยได้มาขอร้องให้เขาไปร่วมทีมในการไปไต่เขาด้วยกัน ปกติเขาจะชอบกีฬากลางแจ้งอยู่แล้วจึงมีความสนใจเป็นอย่างมากจึงตั้งคำถามแรกว่าจะไปปีนเขาที่ไหนหรือและเมื่อไหร่กันหละ ลูกชายก็บอกทันทีว่าเราจะไปปีนภูเขาที่สูงที่สุดในโลกกันนั่นก็คือภูเขาหิมาลัย คุณพ่อเมื่อได้ยินชื่อภูเขาหิมาลัยก็รู้ว่าใจตัวเองเต้นแรงและความท้าทายนั้นเกินร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ความเชื่อมั่นนั้นเป็นศูนย์เนื่องจากอายุเขาได้ 53 ปี แล้วจะสามารถไต่เขาได้หรือคำมั่นสัญญาก็ไม่มีเช่นกันเพราะเมื่อความเชื่อมั่นไม่มีความปรารถนาในการที่จะให้มันเกิดขึ้นก็ไม่มีแรงดลบันดาลใจตลอดจนความกล้าก็ไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
     เมื่อลูกชายสังเกตเห็นความไม่ศรัทธาในตัวเองจึงได้พาคุณพ่อของเขามาคุยกับคุณพ่อเพื่อนซึ่งมีอายุ 53 ปีเช่นกันที่พึ่งประสบความสำเร็จในการปีนภูเขาหิมาลัยมาสดสดร้อนร้อน คุณพ่อเพื่อนเป็นเจ้าของศูนย์สุขภาพจึงถือโอกาสที่จะตรวจสุขภาพและความสามารถทั้งทางร่างกายและจิตใจว่าพร้อมที่จะปีนเขาขนาดไหน หลังจากที่ผ่านการทดสอบแล้วจึงแจ้งรายละเอียดของการเตรียมตัวให้ฟังว่าด้วยร่างกายของเขาในปัจจุบันนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งร่ายกายและจิตใจเป็นเวลา 1 ปีเต็มและทุกวันวันละ 3 ชั่วโมงเขาจะต้องมาเข้าโปรแกรมพัฒนาต่อเนื่องทุกวันไม่มีวันหยุด สำหรับกลยุทธ์ในการพัฒนาการก็คือต้องพัฒนาความแข็งแกร่งของการอดทน กำลังขา และความสามารถในการทนต่ออากาศที่มีความกดดันต่ำซึ่งก็เป็นระยะเวลาพอดีกับจังหวะในการปีนเขาหิมาลัยในอีกหนึ่งปีพอดี การที่ได้รับคำแนะนำในการเตรียมตัวทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเองว่าฉันจะต้องมีความพร้อมอะไรบ้างในการปีนภูเขาหิมาลัย เขากลับมาถามตัวเองว่าเมื่อมีความมั่นใจแล้วอะไรที่จะทำให้เขามีคำมั่นสัญญาในการพัฒนาอย่างไม่ย่อท้อและมีความกล้าในการปีนเขาเมื่ออีกหนึ่งปีมาถึง เขากลับมาถามตัวเองว่าคำมั่นสัญญานั้นเกิดจากการที่เขาต้องใช้เวลากับการพัฒนาถึง 3 ชั่วโมงทุกวันเขาจะต้องใช้เวลากับภรรยา 1 ชั่วโมงน้อยลงภรรยาก็ถามกลับว่าคุณรู้ว่าทำไปเพื่ออะไรใช้ไหม เขาตอบว่าใช่งั้นลุยเลยฉันสนับสนุน เขาถามคำถามเดียวกันกับเพื่อนร่วมหุ้นและก็ทีมงานของเขาทุกคนก็ถามคำเดียวกันว่าถ้าต้องการทำก็ลุยเลย เมื่อเขาได้การสนับสนุนจากทุกคนเขาก็กลับมาถามตัวเองว่า เขาได้ตอบคำถามว่า เขามีทุกอย่างที่จะทำให้สิ่งที่เขาต้องการจะทำสำเร็จและเขารู้ว่าเขาต้องการทำไปเพื่ออะไร เมื่อเขาตอบคำถามทุกคำถามได้ ทำให้เขาเกิดคำมั่นสัญญาและมีความกล้าในการเดินทางเพื่อพิชิตภูเขาแห่งความฝันของเขา
     กระบวนการในการเขียนพิมิ์เขียวของชีวิตจะทำให้คุณสามารหาคำตอบได้ว่าเป้าหมายของคุณชัดหรือยังดุจดังเพื่อนของผู้เขียนที่หลังจากที่ผ่านกระบวนการเจียระไนความคิดแล้วทำให้เขามีความกล้าในการขึ้นไต่เขาหิมาลัยจริงๆ ร่วมกับลูกชายสุดที่รักและเขาก็กลับมาเขียนหนังสือที่เขาได้เรียนรู้จากการปีนภูเขาหิมาลัยที่ชื่อว่า The Right Mountain ถ้าเราสามารถจะสร้างพิมพ์เขียวให้กับตัวเองแล้วคุณจะมีความคมชัดในการสร้างชีวิตของคุณไม่ว่าคุณจะพบกับวิกฤตการณ์ในชีวิตอย่างไรก็ตามพิมพ์เขียวของชีวิตจะนำทางคุณไปในทิศทางที่คุณสนุกในการเดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่คุณต้องการ



 
โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร  E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785 
บทความได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์


Home    l    About Us    l    Education Program    l    Consulting    l    Clients    l    Online Test
Books & Multi    l    Apic Leadership Review    l    Contact Us