รากแก้วความสุข Grass Root of Authentic Happiness
[Date : 4 June 2022 ]
 
Talent iceberg of Leadership
[Date : 21 June 2022 ]
 
Unlock Leadership Potential(1)
[Date : 10 May 2022 ]
 
การเป็น Coach ในการเจียระไนอัจฉริยภาพส่วนบุคคลกรสู่องค์กรอัจฉริยะ
 

การเป็น Coach ในการเจียระไนอัจฉริยภาพส่วนบุคคลกรสู่องค์กรอัจฉริยะ



          ในการสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างบุคคลากรที่สามารถจะต่อสู้กับสภาวะผันผวนที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความสามารถในการวิเคราะห์และพัฒนาความสามารถและทักษะอยู่ตลอดเวลา พื้นฐานเหล่านี้เป็นวุฒิภาวะของผู้นำที่ต้องขนขวายเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากความรู้ทางด้านเทคนิคและเทคโนโลยี่นั้นปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วทำให้ความรู้ที่เคยมีอยู่อาาจะกลายเป็นสิ่งที่ล้าสมัยถ้ามิได้มีการขนขวายหาความรู้ใหม่เพื่อให้ทันกระแสที่หมุนอยู่รอบตัวเรา แต่ในบางครั้งการที่จะมองการพัฒนาจากมุมของตัวเราอย่างเดียวอาจจะมีข้อจำกัดหากเจ้าตัวไม่มีประสบการณ์ที่เคยมองเห็นความรู้ที่ต้องการในการปรับตัวในยุคโลกาภิวัฒน์

บันไดสี่ขั้นสู่กระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการ
          ผู้เขียนเองเคยเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาทักษะชององค์กรอัจฉริยะข้ามชาติอย่าง Microsoft, Pfizer, IBM ซึ่งในการปรับตัวของบุคลากรในองค์กรเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องมีพื้นฐานที่มี Hi-bandwidth นั่นก็คือต้องเปิดภาครับของการเรียนรู้ดุจดังภาครับของวิทยุที่มีคลื่นรับที่กว้างพร้อมทั้งมีความขนขวายและสนุกกับกระแสของการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่องค์กรแบบไทยๆที่ต้องการปรับตัวให้เท่าเทียมและสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติจำเป็นที่จะต้องปรับพื้นฐานแนวความคิดของบุคคลากรให้เท่าทันกับธุรกิจข้ามชาติ ผู้เขียนเองพบว่าบางครั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์กับบริษัทข้ามชาติจำเป็นที่จะต้องมีพี่เลี้ยงเพื่อเป็นกระจกสะท้อนถึงสิ่งที่ตัวเองมีศักยภาพอยู่ในตัวตลอดจนทั้งสามารถที่จะเข้าใจจุดอ่อนที่ต้องพัฒนา กระบวนการแห่งการเรียนรู้นั้นมีอยู่ 4 ขั้นตอนด้วยกันดังในรูป ที่ 1



ซึ่งบางครั้งเมื่อเจ้าตัวไม่เคยมีประสบการณ์ทำให้เจ้าตัวจะอยู่ในขั้น Unconscious Incompetence นั่นก็คือไม่รู้ตัวว่าไม่รู้อะไร บางครั้งการสร้างเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์นั้นสำคัญในการเปิดโลกทัศน์ในการพัฒนา ลูกค้าหลายรายของผู้เขียนเองได้จัดตั้งสมาคมศิษย์เก่าของศูนย์เอเซีย แปซิฟิก อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ซึ่งได้เชิญ Thought Leader หรือนักคิดชั้นนำจากทั่วโลก เช่นเมื่อเดือนที่แล้วได้ Dr.Nanty Meyer  Director ของ Executive Education จากมหาวิทยาลัย Berkeley ที่สามารถทำให้ศูนย์กลายเป็นอันดับหนึ่งของการพัฒนาผู้บริหารระดับสูงในอเมริกามาเป็นวิทยากรกิตติมศักดิ์ในหัวข้อ Strategic thinking: Scenario based planning โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำเช่น Shell, PQ Chemicals,Security Analysts association, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การบินไทย การเคหะแห่งชาติ QAD I&I , ABCN , Platinum Technology, Leo group of companies เป็นต้น โดยมีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวความคิดในการมองสภาพสภาวะเศรษฐกิจในระดับนานาชาติในแง่มุมที่หลากหลาย สิ่งที่สำคัญในการพัฒนาก็คือการเปลี่ยนแนวความคิดจากการที่ตัวเรารู้หมดทุกอย่างนั่นก็คือ Unconscious incompetence ให้กลายเป็น Conscious Incompetence นั่นก็คือจากน้ำชาเต็มแก้วเป็นมุมมองในการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ  การเป็น Coach นั้นขบวนการในการเรียนรู้ในบันไดขั้นแรกนั้นสำคัญมากเพราะถ้าผู้บริหารหรือบุคคลากรในองค์กรไม่เปลี่ยนกรอบความคิดในจุดนี้แล้วการแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตัวเองก็จะไม่เกิดขึ้น
          บทบาทที่สำคัญของ Coach หลังจากที่เปิดโลกทัศน์ แล้วจำเป็นที่จะต้องสร้างมุมมองในการพัฒนาที่ถูกต้อง เมื่อเจ้าตัวเริ่มยอมรับว่าตัวเราเองต้องพัฒนา หน้าที่ของ Coach ต้องให้คำปรึกษาในการเจียระไนความสามารถให้ถูกทางและวางแผนการพัฒนาการอย่างเป็นระบบเพราะการพัฒนาการตรงนี้ถ้าสามารถวางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรที่วางวิสัยัทัศน์ที่วางไว้ก็จะทำให้การสร้างองค์กรอัจฉริยะเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพและมีความหมายกับผู้ที่ต้องการพัฒนาการยิ่งขึ้นเพราะ Coach จำเป็นต้องสร้างบรรยกาศในการพัฒนาการอย่างสร้างสรรค์
          การสร้าง Leadership Blueprint เป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับ Coach ในการวางแผนการพัฒนาการเพราะ สถาปัตย์กรรมในการพัฒนานี้ก็เปรียบเสมือนพิมพ์เขียวในการสร้างบ้านยิ่งสามารถวางได้ชัดเท่าไหร่พลังในการพัฒนาการยิ่งจะเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น ผู้เขียนเองมองเห็นความสำคัญในการโยงใยความฝันส่วนตัวให้กลายเป็นแบบแผนในการพัฒนาชีวิตและหน้าที่การทำงานเพราะ ทุกคนจะให้ความสำคัญของความฝันของตัวเองทั้งสิ้นถ้า Coach สามารถโยงใยความต้องการส่วนบุคคลกับเป้าหมายขององค์กรอย่างชาญฉลาดจะทำให้แผนของการพัฒนาการเต็มไปด้วยความหมายด้วยหัวใจชองผู้ต้องการพัฒนาการอยู่ในนั้น Coach เองบางครั้งจำเป็นที่จะต้องช่วยขัดสีฉวีวรรณให้ความฝันกลายเป็นวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนขึ้นรวมทั้งต้องทำหน้าที่เป็นกัลยาณิมิตรด้วยการถามคำถามโหดๆเพื่อให้เข้าเจ้าตัวเกิดการสะท้อนความคิดและสามารถวิเคราะห์ว่า ทำไมถึงต้องการสิ่งที่ฝัน ถ้าได้แล้วมีความรู้สึกอย่างไร ถ้าทำภาพความฝันนั้นสำเร็จแล้วยังต้องการความสำเร็จนั้นอยู่หรือไม่ ตลอดจนความคมชัดของภาพคืออะไรและหนทางที่จะสร้างปัจจัยความสำเร็จคืออะไร รวมทั้งการติดตามผลความสำเร็จ

สร้างวิสัยทัศน์บนพื้นฐานการเจียระไนอัจฉริยภาพที่เหมาะสม
          Coach ที่ดีจำเป็นต้องสร้างวิสัยทัศน์บนพื้นฐานของอัจฉริยภาพที่เหมาะสมเพราะบางครั้งเจ้าของความฝันเองอาจจะมิได้มองพื้นฐานที่เหมาะสม บางคนตั้งความฝันบนจุดอ่อนของตัวเอง:ซึ่งจะทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้นยากเพราะเกิดการต่อยอดบนสิ่งที่ไม่ถนัด  การพัฒนาการบนพื้นฐานที่ไม่ถนัดจะต้องสร้างหยาดเหงื่อและแรงงานมากกว่าการต่อยอดจากพื้นฐานที่ตัวเองถนัด จากการศึกษาของผู้บริหารในแถบเอเซียแปซิฟิกผู้ที่ประสบความสำเร็จจะเป็นผู้ที่รู้จักอัจฉริยภาพที่ตัวเองและจะสร้างความสำเร็จของเป้าหมายด้วยการเจียระไนบนอัจฉริยภาพที่มีอยู่แล้วเปรียบเสมือนการเจียระไนเพชร
          นักเจียระไนเพชรที่มีชื่อจะมองภาพของพื้นฐานที่มีอยู่แล้วในตัวเพชรเมล็ดนั้นว่ามีน้ำสีอะไรเพราะคงจะหาเพชรทุกเมล็ด ที่ไร้สีนั้นยาก เพชรตามธรรมชาติจะมีหลายสีหลายเฉกตั้งแต่ขาวใสไร้สีซึ่งหายากและมีค่าที่สุดไปถึงสีเฉดต่างๆ เพชรยิ่งมีสีน้อยเท่าไหร่จะสะท้อนประกายไปสีรุ้งบนหน้าเพชรได้งามขึ้นเท่านั้น สีของเพชรจะเป็น C แรก คือ Color  หลังจากนั้น C ที่สอง ก็คือน้ำหนักหรือ Carat จะเป็นปัจจัยที่สำคัญอันดับสองในการพิจารณา ปกติแล้วเพชรยิ่งมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งหายากและมีราคาแพงกว่าขนากเล็ก  สำหรับ C ที่สามก็คือ Clarity ความบริสุทธิ์ เพชรส่วนมากจะมีริ้วรอยตำหนิเล็กน้อยเปรียบเสมือนลายมือและเป็นเอกลักษร์ของเพชรแต่ละเม็ด แต่ว่ายิ่งมีริ้วรอยน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งจะทำให้แสงผ่านได้มากขึ้นทำให้เพชรทอประกายเจิดจ้าระยิบระยับขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่มีหลายคนเข้าใจสับสนระหว่างการเจียระไนกับรูปทรงของเพชรก็คือ การเจียระไนเพชรหรือ C สุดท้าย Cut การเจียระไนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะสาม C แรกนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติแต่นักเจียระไนมือเอกจะสามารถมองพื้นฐานของทั้งสาม C แรกแล้วจะ Cut หรือเจียระไนให้เกิดการเล่นแสงตลอดจนวางต่ำแหน่งเหลี่ยมมุมให้เพชรเมล็ดนั้นให้ดูดีอยู่ในวงแหวนที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดแสงแพรวพราวระยิบระยับทวีค่ายิ่งขึ้น ลูกค้าของผู้เขียนเคยเล่าให้ฟังว่าเขาเคยมีแหวนวงหนึ่งที่มีน้ำออกเหลืองๆซึ่งได้รับมรดกมาดูเหมือนเป็นเพชรน้ำไม่งามและดูไม่มีราคาก็มิได้นำมาใส่ออกงานเนื่องจากดูไม่ค่อยมีค่า วันหนึ่งได้นำออกฝากขายให้กับทีมที่ปรึกษาของผู้เขียนซึ่งมีประสบการณ์และรู้จักนักเจียระไนเพชรฝีมือดี ที่ปรึกษาคนนั้นจึงได้นำแหวนเพชรวงนั้นไปให้นักเจียระไนเพชรตบแต่ใหม่เมื่อเอากลับมาให้เจ้าของปรากฎว่าเจ้าของจำไม่ได้ว่าเป็นแหวนวงเดิม เจ้าของคนนั้นถามว่าไปทำอย่างไรจึงดูดี ที่ปรึกษาผู้นั้นจึงกล่าวว่าเพชรเมล็ดนั้นมีน้ำสีเหลืองซึ่งไปสวมอยู่บนแหวนทองคำขาวทำให้น้ำยิ่งดูเหลืองขึ้นดูไม่มีราคา นักเจียระไนจึงนำวงแหวนทองมาเป็นพื้นและเจียระไนแต่มุมให้เข้ากับเรือนแหวนซึ่งขับทำให้เพชรเมล็ดนั้นกูขาวขึ้นและเมล็ดใหญ่เป็นประกายแวววาวขึ้นดูมีราคาอย่างมาก  การเจียระไนคนก็เหมือนกัน Coach ที่ดีก็เปรียบเสมือนนักเจียระไนมือเอกที่ควรจะหาเหลี่ยมมุมที่วิสัยัทัศน์สามารถที่จะใช้พื้นฐานที่เขามีให้เจิดจรัสเพื่อบริหารโอกาสที่ผ่านเข้ามาอย่างเหมาะเจาะ และที่สำคัญต้องสามารถที่จะประสานเหลี่ยมคมที่เป็นจุดอ่อนและประสานเหลี่ยมกับทีมงานเพื่อที่จะเจิดจริสร่วมกัน

การสร้างวัฒนธรรมที่จะต้องเคารพความต่างและประสานความสามารถ
          การสร้างวัฒนธรรมที่จะต้องเคารพความต่างและประสานความสามารถในมิติที่แตกต่างกันจะเป็นพื้นฐานของค่านิยมที่ต้องเป็นโครงสร้างของสถาปัตย์กรรมรวมขององค์กรเพื่อที่จะสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการประสานและการเจริญเติบโตขององค์กร Coach ของทีมงานก็เปรียบเสมือน Coach ของนักกีฬาที่ต้องเป็นกัลยาณิมิตรที่ดีของกัปตันและทีมทุกคนที่ต้องรู้รูปแบบของความถนัดและแนวทางในการประสานงาน Coach จำเป็นต้องเข้าใจความเร็วของการเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจภายนอก เกมส์การแข่งขันที่จะเล่น และสไตล์ของผู้เล่นของทีมงาน ผู้เขียนเองมีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวความคิดนี้และเป็นที่ปรึกษากับบริษัทในภาคธุรกิจเทคโนโลยี่สารสนเทศหลายบริษัท จะเห็นความแตกต่างว่าในองค์กรแต่ละองค์กรก็มีจังหวะและการประสานในสไตล์ที่แตกต่างกัน ถ้าสไตล์Microsoft จะเป็น รูปแบบของดนตรี jazz ที่ต้องมีความสามารถในการต่อยอดหรือ Improvise มีความคล่องตัวสูงและมีความสามารถเฉพาะตัวสูงรวมทั้งต้องบริหารความขัดแย้งที่เก่ง ถ้าเป็น compaq จะเป็นสไตล์ pop rock นั่นก็คือ มีความเป็นมืออาชีพที่ดุดันแบบ rock  N roll แต่ต้องมีระบบจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิ์ภาพดุจดังเพลง Pop ที่ต้องพัฒนาตามความนิยมของผู้ฟังเสมอ
          ดังนั้นการพัฒนาการประสานอัจฉริยภาพจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึง Rhythm ภายในองค์กรด้วยเพราะถ้าบุคคลากรที่เน้นการทำงานเป็นรูปแบบที่แน่นอนอาจจะเจียระไนให้เข้ากับเหลี่ยมมุมของบรรยกาศขององค์กรที่ปรับเปลี่ยนไว้ได้ยากกว่า บางองค์กรต้องการบุคคลากรที่เป็นผู้ตามที่ดีเปรียบเสมือนเด็กที่ว่านอนสอนง่ายที่เป็นนักทำและผู้ตามที่ดี ในขณะที่บางองค์กรต้องการให้เกิดการบริหาร Conflict resolution ที่บริหารความต่างเป็นปัญหาหรือ Wisdom ซึ่งเปรียบเสมือนเด็กซนที่ต้องการบรรยากาศที่มีการต่อยอดทางความคิด การบริหารเด็กซนก็ต้องการบรรยากาศที่เปิดกว้างและรับฟังความคิดที่หลากหลายแต่ต้องมีความสามารถในการตะล่อมความคิดให้ไปในทิศทางเดียวกัน
          สิ่งที่สำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันสำหรับ Coach ก็คือการสร้างแนวปฏิบัติและการติดตามผลว่าได้เดินตามไปตามสิ่งที่ออกแบบมาเพราะถ้าออกแบบสถาปัตย์กรรมที่สวยหรูแต่ไม่สามารถสร้างเป็นบ้านที่น่าอยู่อย่างเป็นรูปธรรมได้จะทำให้ความคิดในการเจียระไนองค์กรอัจฉริยะยังเป็นแค่ความฝันไม่สามารถปฎิบัติเป็นรูปธรรมได้ Coach จำเป็นต้องสร้างระบบการวัดผลที่โยงใยเป้าหมายระยะสั้นส่วนบุคคลกับภาพวิสัยทัศน์รวมของบริษัทระยะยาวเพื่อทำให้การเดินทางไปสู้เป้าหมายมีความรู้สึกประสานพลังพร้อมทั้งสามารถวัดความสำเร็จและมีความสนุกร่วมกันในการสร้างฝันให้เป็นความจริง


 
โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร  E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785 
บทความได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์


Home    l    About Us    l    Education Program    l    Consulting    l    Clients    l    Online Test
Books & Multi    l    Apic Leadership Review    l    Contact Us