ในปีที่ผ่านมาคุณได้ใช้พลังชีวิตล่วงหน้าของคุณไปหรือเปล่า ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ อาทิเช่น ถวิลหาเสาร์อาทิตย์ในช่วงวันทำงาน ให้โทรทัศน์ดูเราไม่ใช่เราดูโทรทัศน์ อยากนอนทอดหุ่ยอยู่กับบ้านไม่อยากออกไปไหน ดูอะไรหลายๆ อย่างรอบตัวเราไม่ได้ดั่งใจไปหมด พอถึงเช้าวันจันทร์คิดหาวิธีว่าจะลางานด้วยวิธีการอย่างไรดี
ถ้าทุกวันในการทำงานไม่ได้ทำให้พลังชีวิตของคุณสูงขึ้น ปีใหม่นี้นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะกลับมาปล่อยวางความเครียดและมลพิษทางอารมณ์ หาต่อมพลังและสร้างกระบวนการในการชาร์จพลังชีวิตกันดีกว่า
ความล้าทางจิตใจและร่างกายที่สั่งสมอยู่ในตัวเราเป็นอาการที่เห็นได้อย่างชัดเจนกับทีมงานในช่วงใกล้ปลายปี กระบวน 3 D ในการชาร์จพลังชีวิตโดยเฉพาะในช่วงหยุดพักช่วงปีใหม่ก็คือ
1. Detox Unimportant Negative Emotion
ขับสารพิษทางอารมณ์ออกจากร่างกายด้วยการใช้กระชอนกรองความเครียดเพื่อถามคำถามว่าความเครียดที่คุณเผชิญอยู่ในปัจจุบันนี้ สำคัญต่อคุณขนาดไหน บางท่านมักจะเอาปัญหาที่สำคัญสำหรับคนอื่นมาเป็นปัญหาของเรา เครียดร่วมไปกับคนรอบข้างซึ่งบางครั้งมันไม่สำคัญสำหรับเราเลย
บางคนเครียดกับอดีตและกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงและมักจะปรุงแต่งให้มันขยายใหญ่ขึ้น การหยุดอยู่กับปัจจุบันและหาข้อมูลที่แท้จริงเพื่อกลับมาถามตัวเองให้ชัดว่าปัญหาที่เครียดนั้นสมควรเครียดจริงๆหรือเปล่า ถ้าเครียดตอนนี้จะดีขึ้นหรือแย่ลง
ถ้าเราหยุดมองปัญหาที่นำมาถึงความเครียดอย่างจริงจังด้วยสติ จะสามารถกรองความเครียดที่คุณสมควรจะหยุดพิจารณาและใช้เวลาและทรัพยากรที่ควรคู่กับการเสียเวลาจริงๆ และถ้ามันคู่ควรกับการเสียเวลาก็จะเป็นโอกาสทองที่คุณจะโฟกัสเพื่อสร้างโอกาสจากปัญหาที่แท้จริง
2. Damage Control Stress Sweet Spot
การใช้ต่อมเครียดโดยไม่รู้ตัวและอย่างไม่เหมาะสมจะทำให้เราใช้พลังชีวิตของเราไปอย่างน่าเสียดาย ผู้บริหารหลายคนไม่รู้จักตัวเองว่าพลังลบทางอารมณ์ออกมาจากการที่เราทำงานที่ไม่เหมาะสมกับอุปนิสัยพื้นฐานมีอะไรบ้าง บางคนเก่งและทำได้หลายอย่างแต่ไม่เคยตรวจสอบอารมณ์ว่าสิ่งใดที่ทำแล้วเกิดพลังบวก อะไรที่ทำให้เกิดพลังและควันพิษทางอารมณ์
คนเก่งมักจะทำได้ดีแม้แต่ในสิ่งที่เราไม่ชอบ แต่เมื่อเราหลงทำไปมากๆเราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างพลังบวกของชีวิตไป หลายคนเกิดความชาชินและใช้ความทนเป็นอาวุธเพื่อจะอยู่กับสิ่งที่เราไม่ชอบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการยืมพลังในอนาคตมาใช้โดยที่เราไม่รู้ตัว
หลายองค์กรใช้เครื่องมือที่เรียกว่าแบบสอบถามความถนัดเชิงอัจฉริยภาพ (Multi-Dimension Intelligence Profile Assessment)เพื่อค้นหาต้นกำเนิดของพลังลบและระดับอารมณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเพื่อเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบอารมณ์และสามารถสร้างกระบวนการเพื่อบริหารหรือ Damage Control ขีดจำกัดตรงนี้เพื่อมิให้เกิดความ
เสียหายในการทำงานและสัมพันธภาพที่จะโดนทำลายไปจากมลพิษทางอารมณ์ที่เกิดขีดจำกัด
3. Develop Happiness Sweet Spot Enhancement
นอกเหนือจากต่อมเครียดที่เราสะท้อนได้จากแบบสอบถามความถนัดเชิงอัจฉริยภาพ เครื่องมือนี้ยังเป็นกระจกสะท้อนต่อมพลังบวกที่เราเรียกว่าต่อมสุขใจ (Happiness Sweet Spot)ยิ่งเราใช้ต่อมนี้มากเท่าไหร่ก็จะสร้างให้สารเอนโดฟิน (Endorphin)ของเราซึ่งเป็นสารแห่งความสุขหลั่งออกมา
ถ้าเราสร้างทักษะเพื่อสร้างต่อมสุขใจให้กลายเป็นความสามารถออกมาจะเป็นกระบวนการปลดปล่อยและเจียระไนขุมพลังในตัวเราให้เบิกบานออกมา หลายคนที่ผู้เขียนช่วยสร้างพิมพ์เขียวของการปลดปล่อยพลังจากต่อมสุขใจออกมาจะเกิดแรงขับจากอุปนิสัยพื้นฐานซึ่งเป็นแหล่งพลังจากภายใน เมื่อเราค้นพบแหล่งพลัง เราชื่นชมและเคารพพลัง บวกที่เกิดขึ้นจากภายใน เราก็สามารถสร้างกระบวนการสะกิดขุมพลังอย่างต่อเนื่อง
การสร้างนิสัยใหม่ที่ขับพลังดีๆ อย่างต่อเนื่องจะกลายเป็นพฤติกรรมใหม่ที่เราสามารถเริ่มต้นดีๆ จากต้นปีใหม่นี้ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่มักจะเริ่มจากก้าวเล็กๆ ที่เป็นก้าวแรกทั้งสิ้น ใช้เวลาในช่วงเริ่มต้นของปีใหม่นี้เพื่อชาร์ดและปลดปล่อยพลังชีวิตที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในกันเถอะเพื่อรอยยิ้มที่ยั่งยืนในปี 2015
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,014
โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785
|