ถ้าจะถามว่า "พรสวรรค์กับพรแสวง" อะไรสำคัญกว่ากันก็เปรียบเสมือนคำถามที่ว่า "รากกับลำต้น" อะไรสำคัญกว่ากัน ความสำเร็จกับความสุขในการเจริญเติบโตในการเป็นผู้นำต้องการทั้งความชอบและทักษะในการสร้างความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ พรสวรรค์เป็นกุญแจดอกสำคัญในการสร้างความรู้สึกชอบและรักในสิ่งที่ทำ ถ้าเรามีพรแสวงด้วยแล้วเราก็จะสร้างวินัยในการหมั่นฝึกฝนทักษะให้เกิดเป็นความเก่งในการแสดงความสามารถ
    กลยุทธ์ในการผสมผสานพรสวรรค์และพรแสวงให้กลายเป็นอัจฉริยภาพของผู้นำก็คือกระบวนการที่เรียกว่า C-O-A-C-H นั่นก็คือ
    1.  ค้นหาพรสวรรค์ที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเราให้เจอ (C-Crystallize Innate Drive)
    ขั้นตอนแรกเป็นรากฐานที่สำคัญเปรียบเสมือนการค้นหา DNA ของเมล็ดพันธุ์ที่สามารถเติบโตเป็นรากที่แข็งแรง หลายครั้งเราปล่อยให้สิ่งแวดล้อมกำหนดชะตาชีวิตของเราโดยที่เราเองมิได้มองเห็นพรสวรรค์ที่โดดเด่นในพันธุ์กรรมพื้นฐานของเรา บางชีวิตมีเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแรงที่เปรียบเสมือนดอกบัว แต่บางครั้งเรายอมให้คนรอบข้างนำเราไปปลูกในทะเลทราย แม้เมล็ดพันธุ์ของเราจะดีแค่ไหน แต่ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยก็เติบโตอย่างเต็มศักยภาพได้ลำบาก
    2.  สร้างโอกาสที่สอดคล้อง (O-Opportunity Given)
    เป็นสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพันธุ์กรรมที่อยู่ภายใน ถ้าเรานำเอาเมล็ดบัวเมล็ดเดิมไปปลูกในน้ำ เราก็สามารถที่จะปลดปล่อยศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในให้เติบโตได้อย่างเป็นธรรมชาติ เราจำเป็นที่จะ
ต้องค้นหา DNA ของพรสวรรค์ของเราให้เจอ หลังจากเจอแล้วเราควรจะเป็นคนแสวงหาโอกาสทองที่จะทำให้พรสวรรค์ของเราเจริญเติบโต ยิ่งโอกาสนั้นสอดคล้องกับพรสวรรค์พื้นฐานแล้ว ความเป็นธรรมชาติของการเจริญเติบโตก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
    ผู้เขียนเคยเป็นที่ปรึกษาผู้นำในองค์กรข้ามชาติที่ต้องการสร้างผู้นำสายพันธุ์ใหม่ของธุรกิจเดิมที่เป็น Product Driven และต้องการ Transform ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นServices Oriented ทีมงานของผู้เขียนได้นำเอาแบบสอบถามความถนัดเชิงอัจฉริยภาพไปทดสอบ Innate Drive ที่เป็นพื้นฐานของพรสวรรค์ทางด้าน Services ในทีมผู้บริหารระดับสูง 7 คน ปรากฏว่ามี 1 คนที่มี DNA ทางด้านบริการที่โดดเด่น เมื่อ CEO เห็นศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในจึงให้โอกาสผู้บริหารท่านนั้นสร้างธุรกิจทาง Services ขึ้นมาใหม่ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ผู้บริหารท่านนี้กลายเป็น Star ที่ทำให้ธุรกิจด้าน Services เติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว CEO กล่าวว่า "ถ้าให้โอกาสในการเพาะบ่มพรสวรรค์ด้วยหัวใจของความชอบ โอกาสนั้นก็จะสร้างพรแสวง ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษขึ้นมาได้"
    3.  กำหนดพิมพ์เขียวในการพัฒนาทักษะที่สำคัญ (A-Architect Priority Skills)
    เมื่อให้โอกาสที่สอดคล้องแล้ว การพัฒนาทักษะที่สำคัญที่เป็นหัวหอกที่เกิดพรแสวงในการพัฒนาพรสวรรค์ให้กลายเป็นความสามารถขึ้นมา พิมพ์เขียวของการพัฒนานั้นจำเป็นที่จะต้องสอดคล้องกับ DNA พื้นฐานหลักของเมล็ดพันธุ์ด้วย ถ้าผู้บริหารอ่านตรงนี้ไม่ขาด อาจทำให้ลงทุนในการฝึกอบรมเยอะไปหมดจนเกิดความสับสนในการเจริญเติบโต แต่ถ้าทำได้ดี หน่วยงานที่จะพัฒนาผู้นำก็จะสามารถเจาะจง Strategic competencies หรือทักษะกลยุทธ์หลักในการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    4.  สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต (C-Cultivate the right environment)
    การเจริญเติบโตในช่วงเริ่มต้นจำเป็นที่จะต้องมีการสร้างเรือนกระจกเพื่อสร้างองค์ประกอบที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต ไม่ว่า จะเป็น โครงสร้าง กระบวนการ ทีมงาน ผลตอบแทน การมีพี่เลี้ยง การเรียนรู้งานในด้านต่างๆ หลายองค์กรชั้นนำที่ผู้เขียนไปช่วยสร้าง Action Based Leadership Project ซึ่งเป็นโครงการสร้างการเพาะบ่มเรือนกระจกที่ช่วยให้ผู้นำสายพันธุ์ใหม่มีโอกาสผสมผสานพรสวรรค์และพรแสวงภายใต้บรรยากาศที่เหมาะสมจนกลายเป็นอัจฉริยภาพผู้นำที่เป็นที่ยอมรับของคนใน Leadership Project แล้วจึงออกสู่โลกกว้างในการแสดงภาวะผู้นำอย่างเต็มรูปแบบ
    5.  ให้เกียรติและเคารพการเจริญเติบโต (Honor and respect growth)
    สุดท้ายก็คือการให้เวลาในการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม ถ้าเราได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดทั้ง 4  ข้อที่กล่าวมาแล้วการให้เกียรติและเคารพจังหวะของการเจริญเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติของเมล็ดพันธุ์  เราไม่สามารถจะติดลูกโป่งที่ใบแล้วบังคับให้รากและลำต้นโตตามใจของเราได้ หรือไม่สามารถทำให้คุณแม่คลอดบุตรที่สมบูรณ์ได้ในระยะ  4 เดือนแทนที่จะเป็น 9 เดือน ดั่งคำพูดที่ว่า "การเจริญเติบโตต้องการจังหวะและเวลาที่เป็นธรรมชาติของมันเอง"
    กลยุทธ์ C-O-A-C-H นี้ ถ้าเราผสมผสานอย่างลงตัวก็จะเป็นการผสมผสานพรสวรรค์และพรแสวงให้เจริญเติบโตและกลายเป็นอัจฉริยภาพของผู้นำที่มีดอกและผลที่เจริญงอกงาม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,976