รากแก้วความสุข Grass Root of Authentic Happiness
[Date : 4 June 2022 ]
 
Talent iceberg of Leadership
[Date : 21 June 2022 ]
 
Unlock Leadership Potential(1)
[Date : 10 May 2022 ]
 
รู้จักตัวเอง-จุดเริ่มต้นสร้างผู้นำรุ่นใหม่
 

 รู้จักตัวเอง-จุดเริ่มต้นสร้างผู้นำรุ่นใหม่ 




 
        เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านได้มีการจัด APIC CEO Forum และได้มีโอกาสเสวนาโต๊ะกลมกับ CEO ชั้นนำหลายท่าน มีโอกาสแลกเปลี่ยนถึงประเด็นที่สำคัญก็คือ การสร้างผู้นำรุ่นใหม่ในสังคมไทยปัจจุบัน โดยเริ่มตั้งแต่การปลูกฝังวุฒิภาวะการเป็นผู้นำตั้งแต่อยู่ในระดับนักเรียน
หลายท่านถกกันถึงเรื่องคำพูดที่ว่า “ตามผู้ใหญ่แล้วสุนัขไม่กัด”  ซึ่งเป็นแนวคิดหนึ่งในสังคมไทยที่ทำให้เด็กๆ ไม่ต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายกับทางเดินของชีวิต แค่เลือกเดินตามรอยที่ผู้ใหญ่โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่บอกไว้เดี๋ยวก็ดีเอง
ผู้เขียนมีโอกาสสอนระดับปริญญาโทภาคภาษาอังกฤษแก่กลุ่มนักเรียนที่เป็นระดับผู้บริหารที่สะท้อนความคิดและทัศนคติที่น่าสนใจของคนรุ่นใหม่ในการความสำคัญของรายได้เปรียบเทียบกับองค์ความรู้ที่ได้รับ สิ่งที่หลายคนตั้งเป้าก็คือทำอย่างไรก็ได้ที่จะเปลี่ยนงานให้ได้มากที่สุดในเวลา 2 ปีที่เรียนและทุกครั้งที่เปลี่ยนทำอย่างไรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ได้มากที่สุดจากการเปลี่ยนงาน โดยออกมาก่อนที่เจ้านายเก่าจะรู้ว่าไม่มีความสามารถและในสองปีที่เรียนหลายคนเปลี่ยนงานถึง 4 ครั้งและมีเงินเดือนขึ้นมากกว่า 2  เท่า
การเดินตามค่านิยมของสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ทุนนิยมที่เน้นจำนวนเงินมากกว่าความรู้และคุณค่าที่ได้รับจากการทำงานจะทำให้คนรุ่นใหม่พบกับโรคมนุษย์เงินเดือนที่เกิดขึ้นในระดับอายุที่น้อยลง ไม่ว่าเป็นโรคความดันสูง โรคความเครียด โรคมะเร็ง โรคกรดไหลย้อนกลับเพราะเขาเหล่านั้นจะต้องเบ่งความสามารถของตัวเองเพื่อสร้างคุณค่าในงานให้สมกับเงินที่ได้โดยลืมมองความสุขและความสนุกของการทำงานเพราะในการเรียนปัจจุบันมิได้สอนให้นักเรียนหยุดตั้งคำถามว่า “ทำไมฉันถึงเรียนสาขานี้ หรือทำไมฉันถึงทำงานในด้านนี้ตลอดจนความสนุกเกิดขึ้นในทุกย่างก้าวที่เรียนหรือไม่ แต่มักจะเน้นว่า เรียนอะไรรวยที่สุด”
CEO ท่านหนึี่งได้แลกเปลี่ยนแนวคิดที่น่าสนใจว่า เขาบอกลูกทั้ง 3 คนว่าอย่าเลือกเรียนเพราะต้องการรายได้สูงสุด ไม่ต้องห่วงว่าจะเลือกเรียนอะไร พ่อจะดูแลลูกเองถ้าลูกไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ แต่สิ่งที่พ่อต้องการก็คือให้ลูกรู้จักตัวเองด้วยการตั้งคำถามที่ว่า ลูกชอบเรียนและทำอะไรลูกจะมีความสุข สนุกกับการเรียนรู้ และสิ่งที่ลูกทำจะสร้างพลังชีวิตและรอยยิ้มในการสร้างสิ่งที่มีค่าแก่สังคม
        ผู้เขียนมีโอกาสช่วยเด็กๆ ทั้งสามคนให้เริ่มค้นหาตัวเองตั้งแต่มัธยมปีที่ 3  ก่อนที่จะเลือกสายวิทย์หรือสายศิลป์ด้วยการใช้แบบสอบถามความถนัดเชิงอัจฉริยภาพ (Multi-Dimension Intelligence Profile Assessment) หรือที่เราเรียกกันว่า MIP เพื่อเป็นเครื่องมือในการสะท้อนตัวตนในการหยุดถามตัวเองว่าต่อมสุขใจในการเรียนและการทำงานอยู่ที่ใดในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงต่อมเครียดที่เราไม่ชอบว่าคืออะไร
ถ้าเด็กสามารถบอกถึงความชอบและความไม่ชอบได้ตั้งแต่มัธยมปีที่ 3 การเลือกเส้นทางเรียนเองในสิ่งที่เขาชอบจะเป็นกระบวนการที่เด็กเหล่านั้นสัมผัสได้ถึงการกระหายที่จะเพิ่มพูนความรู้เพื่อสร้างคุณค่าในสิ่งที่เขาชอบซึ่งในกระบวนการเดินทางจะเพิ่มความสนุก ความเชื่อมั่นและการชื่นชมในความสามารถที่เพิ่มขึ้นจากประสบการณ์ในการสร้างสิ่งที่เขามีแรงบันดาลใจ การเข้าใจต่อมสุขใจหรือเมล็ดพันธุ์ของ  DNA ที่ทำให้เขาสร้างเอ็นโดฟินส์แห่งความสุขว่าอยู่ที่ไหน และการตั้งคำถามกับตัวเองว่าอยากทำอะไรที่สะกิดความสุขจากต่อมสุขใจ จะทำให้เขาเกิดการเรียนรู้ที่จะสร้างสิ่งที่เขารักและสนุกในเส้นทางที่เขาเลือกเอง
ผู้เขียนและคุณพ่อ  CEO ได้ร่วมกันเฝ้ามองการพัฒนาวุฒิภาวะของเด็กทั้ง 3 คนมาเป็นเวลากว่า 14  ปีและได้มีโอกาสให้เขาทั้งสามทำแบบสอบถามความถนัดเชิงอัจฉริยภาพ (MIP) ทุกปีเพื่อที่จะเช็ควุฒิภาวะทางอารมณ์ว่ายังมีความสุขและเส้นทางที่เลือกนั้นยังมีพลังชีวิตและแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยมอยู่หรือไม่
เด็กทั้ง 3  คนมีเมล็ดพันธุ์ของความสุขแตกต่างกันไปคนละแนว คนโตเลือกเรียน Engineering Management โดยได้ทุนเรียนจากคณะและได้คะแนนสูงสุดทางด้านคำนวนเสมอ ปัจจุบันเป็น Entrepreneur ที่เพิ่งนำเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่ออายุยังไม่ถึง 30 ปี เขาชอบด้านคณิตศาตร์ ชอบวิคราะห์ตัวเลขและสามารถใช้  Logic ในการมองโอกาสจากปัญหาได้อย่างลึกซึ้งตั้งแต่ยังเด็ก และต่อมสุขใจทางด้านคณิตศาตร์ก็เติบโตจากการเรียนสายวิทย์และถูกบ่มให้เติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย 
ลูกชายคนโตเจอกับผู้เขียนทุกปีและเล่าถึงความสุขและความสนุกในการเดินทางเพื่อสร้างเมล็ดพันธุ์ที่เขาชอบทางด้านคณิตศาสตร์ให้เติบโตด้วยกิจกรรมและโครงการต่างๆ ที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยมอบให้ และได้ทำงานเพื่อสร้างคุณค่าด้วยการกระหายที่จะเรียนรู้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
สำหรับลูกสาวคนกลางพึ่งได้รับรางวัลศิลปินแห่งอาเซียนและมีความสุขกับการได้ใช้ต่อมสุขใจทางด้าน Creative ตั้งแต่เล็กเมื่อได้ทุนไปเรียนศิลปะที่อิตาลีทำให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกี่ยวกับศิลปะจากแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมทางด้านศิลปะที่มีชื่อและเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก 
ส่วนลูกสาวคนเล็กพึ่งได้รับรางวัลยอดนักขายระดับสูงสุดที่อายุน้อยที่สุดของบริษัทขายตรงข้ามชาติที่สามารถขึ้นสู่ตำแหน่งที่อายุน้อยที่สุดจากยอดนักขายทั่วโลกและได้ทำงานขายที่ทำให้ต่อมสุขใจทางด้านการติดต่อสื่อสารกลายเป็นทักษะของมืออาชีพในเวลาเพียง 10 ปี
คุณพ่อ CEO กล่าวตบท้ายในการแลกเปลี่ยนว่า “ไม่มีอะไรที่จะสร้างผู้นำรุ่นใหม่ได้ดีเท่าการที่ทำให้เขารู้จักตัวเองว่าต่อมสุขใจที่เป็นบ่อเกิดของพลังชีวิตอยู่ที่ไหนและใช้เวลาในช่วงเรียนหนังสือเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของการเพิ่มความรู้ และทักษะในการเจียระไนสิ่งที่เขารักและมีความสุขให้กลายเป็นความโดดเด่นในเส้นทางที่เขาเลือก” การรู้จักและเลือกเส้นทางเดินชีวิตของตัวเองเป็นสมบัติลำ้ค่าที่คุณพ่อ  CEO  ภูมิใจที่สามารถสร้างผู้นำรุ่นใหม่ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เมื่อเขารู้จักตัวเขาแล้วความสำเร็จและความสุขจะหลั่งไหลมาเองโดยธรรมชาติ

 โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร  E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785 
บทความได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์


Home    l    About Us    l    Education Program    l    Consulting    l    Clients    l    Online Test
Books & Multi    l    Apic Leadership Review    l    Contact Us